การแทงม้าคืออะไร

กีฬาการแทงม้าเป็นเกมพนันที่ได้รับความนิยมในการเล่นอีกเกมหนึ่ง ซึ่งในอดีตเราอาจจะแทงม้าตามตู้ม้า ในสถานบันเทิงและบางก็ชอบแทงม้าในสนามแข่งม้า การแข่งม้าในปัจจุบันได้รับความนิยมมาก ในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็น ไทย ญี่ปุ่น อเมริกา อังกฤษ ออสเตเลีย ฮ่องกง สิงคโปร แคนาดา เป็นต้น จึงทำให้ถูกนำมาดัดแปลงเป็นเกมออนไลน์ในเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งยังคงใช้รูปแบบการเล่นที่เหมือนเดิมหรืออาจจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอในอีกรูปแบบอื่น ซึ่งอาจจะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่า

วิธีการเดิมพันการแทงม้า

การเดิมพันม้าแข่งมีอยู่ 2 แบบทั้งแบบการเดิมพันม้าแบบแข่งจริง และการเดินพันม้าแข่งแบบจำลองหรือเกม Simulator เข้ามาช่วยให้อัตราเดิมพันของนักเล่นดียิ่งขึ้น รวมถึงจะมีคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรจะคิดถึง และสิ่งที่เครื่องมือจะเข้ามาช่วยคุณในการติดตาม รวมไปถึงกลยุทธ์การวางเดิมพันม้าแข่ง ซึ่งแต่ละรอบก็จะมีม้าลงตัวที่เข้าเส้นชัยก่อนกัน ซึ่งจะมีสถิติ คะแนนความสามารถต่างๆ ของม้าให้วิเคราะห์ โดยปกติ การแทงพนันม้าแข่งที่สนามม้า มีขั้นตอนการแทงตามนี้คือ

  1. ผู้เล่นต้องลงชื่อสนามที่ใช้แข่งขัน
  2. ระบุเลือกจำนวนเงิน ที่ผู้เล่นต้องการจะเล่น
  3. เลือกชนิดของการเดิมพัน
  4. ผู้เล่นสามารถเดิมพัน ม้าแข่งชนะเลิศได้เพียงตัวเดียว หรือจะเดิมพันม้าแข่งในรูปแบบอื่นๆ ก็ได้
  5. ระบุจำนวนม้าหรือม้าที่ผู้เล่นใช้
  6. แล้วสุดท้ายต้องตรวจสอบการลงเงินวางเดิมพันของผู้เล่น ก่อนที่จะออกจากสนามม้าก่อนที่ผู้เล่นจะออกจากหน้าต่างส่วนที่จะกล่าวต่อไปเป็นรูปแบบการเดิมพันออนไลน์ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ ดังต่อไปนี้

ประเภทการเดิมพันการแทงม้า

การเดิมพันม้าแข่งนั้นมีหลายประเภท ซึ่งรูปแบบการเดิมพันนั้นก็อาจจะแตกต่าง และประเภทการเดิมพันที่เราอาจจะพบบ่อยๆได้แก่

  • การเดิมพันชนะ ( Win Bet ) คือ การทายว่าม้าแข่งตัวไหนชนะ อันดับที่ 1
  • การเดิมพันลำดับ/เข้าที่ ( Place Bet ) คือ การทายว่าม้าแข่งจะเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 หรือ 2
  • การเดิมพันแบบติดโพย ( Show Bet ) คือ การทายว่าม้าตัวไหนจะเข้าเส้นชัย ในอันดับ 1-2-3
  • การเดิมพันแบบวิลกินส์ ( Win Quinella ) คือ การทายว่าม้าตัวไหนจะเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ  1 และ 2
  • การเดิมพันเอ็กแซกต้า ( Exacata Bet ) คือ การทายว่าม้าตัวไหนจะเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ,2 ,3
  • การเดิมพันแบบไตรเฟกตา ( Tricefa Bet ) คือ การเดิมพันว่าม้าตัวไหนจะเข้าเส้นชัย เป็น 1 ,2 ,3 และ 4
  • การเดิมพันแบบซุปเปอร์เฟคตา ( SuperFecta ) คือ การเดิมพันว่าม้าตัวไหนจะเข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 1 ,2 ,3 ,4 และ 5
  • การเดิมพันแบบดับเบิ้ลบีม ( Double Beem ) คือ การทายว่าม้าตัวไหนจะชนะ 2 รายการติดต่อกันติดกัน
  • การเดิมพันแบบไฮโล ( High-Low ) คือการเดิมพันว่าม้าตัวไหนเจ้าเป็นอันดับที่ 1 และม้าตัวไหนเข้าเป็นลำดับสุดท้าย
  • การเดิมพันแบบเดลี่ดับเบิ้ล ( Daily Double ) คือการท้ายว่าม้าตัวไหนชนะ 2 สนาม กับรายการที่แตกต่างในวันเดียวกัน
  • การเดิมพันแบบพิค 3 ( Phik 3 ) คือ การเลือกเดิมพันที่ทายว่าม้าตัวไหนจะชนะการแข่งขัน 3 รายการติดต่อกัน โดยจะต้องเลือกม้า 1 ตัวสำหรับแต่ละการแข่งขัน

การเดิมพันการแทงม้า

เรียกว่าอีกอย่างว่าการแทงแบบ Win การแทงในแบบนี้ตามที่บอกในขั้นต้น ผู้เล่นต้องทำการเลือกแทงม้าตัวที่ต้องการ เพื่อให้เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 เท่านั้น หากม้าที่ผู้เล่นเลือกแทง ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งตัวอื่น และเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ได้นั้น ผู้เล่นจะเสียเงินเดิมพันทั้งหมดทันที ทั้งนี้ยังมีวิธีการเล่นที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะแทงม้าอันดับ 1 ถูกอย่างมีโอกาสที่สูงกกว่าปกติอีกด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้เล่นไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเงินเดิมเปล่าๆได้เลย

ประเภทของการแข่งม้า

ประเภทกีฬาการแข่งม้าในปัจจุบันจะมีอยู่อย่างหลากหลายประเภท ถ้าเป็นการแข่งที่ควบคุมโดยสมาพันธุ์แข่งม้านานาชาตินั้น มีด้วยกันถึง 6 ประเภท โดยจะมีทั้งหมดดังนี้

  1. Dressage ( ศิลปการบังคับม้า ) ก่อนการแข่งขันผู้เข้าแข่งขันจะได้รับแบบทดสอบที่กำหนดว่าจะต้องทำท่าอะไรบ้างในเวลาที่กำหนดให้เรียกว่าคะแนนท่าบังคับ โดยจะมีคะแนนเต็มข้อละ 10 คะแนนแพ้ชนะดูจากคะแนนที่ได้รับในแต่ละข้อรวมกัน ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด คือผู้ชนะ
  2. Show Jumping ( กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ) ประเภทนี้ คะแนนที่ทุกคนได้รับก่อนการแข่งขันคือ 0 คะแนนถ้านักกีฬาสามารถกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางได้ทุกเครื่องโดยไม่ทำไม้ขวางตก ภายในเวลาที่กำหนดไว้ ( วัดระยะทางไว้แล้ว ) ก็จะมีคะแนนเป็น 0 คะแนน ถือเป็นคะแนนที่ดีที่สุด เพราะหากไม่สามารถข้ามสิ่งกีดขวางได้คะแนนก็จะติดลบตามจำนวนสิ่งกีดขวางที่ไม่สามารถข้ามได้ คะแนนเป็น 0 จึงถือเป็นคะแนนที่ดีที่สุด
  3. Eventing ( อีเว้นติ้ง ) เป็นประเภทที่ตื่นเต้น สนุกเร้าใจและยังสามารถมีโอกาสแก้ตัวได้ในวันต่อไป เนื่องจากีฬาขี่ม้าประเภทนี้ต้องทดสอบถึง 3 แบบ คือศิลปะการบังคับม้า ข้ามภูมิประเทศ และกระโดดข้ามเครื่องกีดขว้าง แล้วเอาคะแนนทั้งหมดมารวมกัน ใครเสียคะแนนน้อยที่สุดคนนั้นจะเป็นผู้ชนะ โดยจะมีการแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 วัน ได้แก่ วันแรกเป็นการแข่งขันศิลปะการบังคับม้า และวันที่สองจะเป็นการแข่งขันข้ามภูมิประเทศ
  4. Driving ( รถม้า ) เป็นการแข่งขันที่จะให้ม้าทำการติดตั้งรถม้าและลากนักกีฬาไปด้วย
  5. Vaulting ( ยิมนาสติกบนหลังม้า ) เป็นการแข่งขันที่นักกีฬายิมนาสติกจะขึ้นไปแข่งขันกันบนหลังม้า เป็นการประกวดทัษณะของทั้งนักกีฬาและตัวม้าไปพร้อมกัน
  6. Endurance ( การขี่ม้าวิบาก ) เป็นการแข่งขันความอึดของม้า โดยจะเน้นการวิ่งเป็นระยะเวลานานๆ

สูตรลับวิธีการแทงม้า

สำหรับผู้เล่นที่ต้องการจะชนะการเดิมพันการแทงม้าให้มีโอกาสชนะที่ค่อนข้างสูงนั้น จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการแข่งม้าให้ดีเสียก่อน และต้องคอยติดตามกันแข่งขัน ประวัติของม้า ผู้ดูแล และปัจจัยหลายๆอย่างให้ดีเสียก่อน เพราะการแทงม้านั้นไม่ใช่แค่เพียงเลือกม้าที่ถูกใจหรือมีความแข็งแรงที่ดีที่สุดเท่านั้น แต่กลับเป็นทุกอย่างที่เกี่ยวในสนามในตอนนั้น เพราะทุกปัจจัยอาจจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างได้ โดยจะมีปัจจัยดังนี้

  1. ผู้เล่นต้องเริ่มต้นจากการเช็คประวัติ ม้าแข่งที่เข้าเส้นชัยที่ผ่านมาของม้าแข่งแต่ละตัวว่าตัวไหนจะเข้าเส้นชัยก่อน และมีสถิติที่ดี แต่หากหลังจากที่ม้าตัวนั้นเข้าอันดับแรกแล้วในรอบแข่ง การที่ม้าตัวเดิมนั้นจะยังเหลือพลังงานเพื่อขึ้นกลับมาที่หนึ่งอีกครั้งนั้นจะเป็นไปได้ยาก จึงควรดูว่าม้าตัวไหนที่ยังเหลือแรงและมีสถิติที่ดีรองลงมา
  2. ม้าชนะ หมายถึงม้าที่ผู้เล่นเลือกเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 เท่านั้น
  3. ม้ารอง หมายถึงม้าที่ผู้เล่นเลือกมาเป็นอันดับ 1 ,2 ,3 หรือบางรายการแข่งขันอาจจะนับตัวที่เข้ามาเป็นอันดับที่ 4 ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับในการแข่งขันนั้นๆว่า จะมีจำนวนม้าเข้าแข่งขันกี่ตัว
  4. การถอดรหัสแบบฟอร์มม้าแข่ง DRF ( Decoding the Racing Form ) คุณต้องศึกษาแบบฟอร์มของบัตรม้าแข่ง ซึ่งจะมีข้อมูลสถิติที่เกี่ยวกับการแข่งขันของม้าแต่ละตัวที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นเทียบสถิติความเป็นไปได้ต่อไปในการแข่งขันได้ง่ายขึ้น
  5. ระยะทางของสนามการแข่งขัน โดยความสำคัญของระยะทางของสนามแข่งนั้นถือว่าเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับผู้เล่นเลยก็ว่าได้ เพราะม้าแต่ละตัวจะมีความถนัดหรือกรรมพันธุ์ที่แตกต่างกัน โดยหากนำมาใช้งานเพื่อขี่นั้นจะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ ม้าเร็ว ซึ่งเหมาะกับการวิ่งในระยะสั้นๆแต่สามารถทำความเร็วได้เป็นอย่างดี เหมาะกับสนามที่มีระยะทางสั้น ใช้เวลาไม่นานในการแข่ง และอีกประเภทก็คือ ม้าอึด เหมาะการวิ่งเป็นระยะเวลานานและไกล แต่วิ่งได้ช้ากว่าม้าเร็ว ซึ่งเหมาะกับสนามที่มีระยะยาวมากกว่า
  6. คอยตรวจสอบสภาพอากาศและภูมิประเทศ เพราะว่าม้าที่นำมาแข่งนั้นจะมีความถนัดที่แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น ม้าเบอร์ 1 สามารถวิ่งได้เร็วแต่เฉพาะกับดินที่แห้งสนิทเท่านั้น แต่ม้าเบอร์ 2 มีสถิติที่วิ่งได้ช้ากว่า แต่กลับสามารถวิ่งบนดินชื้นได้ดีกว่าจนอาจจะวิ่งได้เร็วกว่าม้าเบอร์ 1 ในตอนนั้นก็ว่าได้ เมื่อทำการแทงม้าเราควรศึกษาม้าทุกตัวให้ดีเสียก่อน เพราะเพียงแค่ปัจจัยเล็กๆก็สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

สรุป

การแทงม้านั้นเป็นการพนันที่อาศัยทักษณะความรู้เป็นอย่างมาก อาจจะมีเรื่องโชคเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่หากข้อมูลที่ผู้เล่นมีนั้นเยอะมากพอที่จะสามารถวิเคราะห์ได้ ก็จะสามารถสร้างรายได้จากการแทงม้าได้อย่างง่ายดายกันเลยทีเดียว และยิ่งใครเป็นผู้เล่นหลงไหลในกีฬาการแข่งม้าอยู่แล้วนั้น ก็จะยิ่งได้เปรียบมากกว่าผู้อื่น ทำให้เป็นเกมการพนันที่เหมาะสำหรับคนกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นเกมการพนันที่ต้อนรับผู้เล่นใหม่อยู่เสมอ เพราะก็ยังคงขึ้นชื่อว่าเป็นกีฬา ที่สามารถสร้างความบันเทิงให้กับผู้เล่นได้เรื่อยๆ เหมือนกับบอล เพียงแต่อาจจะเป็นอะไรที่เฉพาะกลุ่มสักเล็กน้อย แต่หากผู้เล่นเปิดใจไปกับการแข่งม้าแล้ว คงจะต้องสนุกไปกับมันอย่างแน่นอน และยิ่งมีการเดิมพันด้วยแล้วก็จะยิ่งเพิ่มอรรถรสยิ่งขึ้นไปอีก

เข้าสู่ระบบสมัคร
แนะนำเพื่อนติดต่อเรา